วันพุธที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2560

ท่านเคยอยากลองปูกระเบื้องกันไหม??? และถ้าคำตอบคืออยาก และจะปูอย่างไร???

        เทคนิคการ ปูกระเบื้อง อย่างถูกวิธี ตอนที่1      

        หลายท่านคงทราบดีแต่ว่าการ ปูกระเบื้อง ก็คือการปูลงบนปูนแค่นั้นไช่ไหมครับ แท้จริงแล้วเทคนิคการปูกระเบื้องนั้นสำคัญมากเลยทีเดียว ถ้าปูไม่ถูกวิธีหรือไม่มีความสามารถในการปู ไม่ช้านานกระเบื้องก็อาจจะร่อนหรือปริแตกเสียหายได้


========================================================

         มาดูประเภทของการปูกันก่อนครับ แบ่งออกเป็น 4 ประเภทใหญ่ๆ คือ
     1. การปูแบบเปียก คือการผสมปูนตามปรกติคล้ายๆกับปูนก่อ คือนำปูนเขียว(ปูนปอร์ตแลนท์) มาผสมกับน้ำให้เหนียวในระดับหนึ่งและปูกระเบื้องทับลงไป  ข้อเสียของการปูแบบนี้คือ จะมีอากาศอยู่ภายใต้กระเบื้องเมื่อปูเสร็จแล้ว เพราะในขณะที่ปู ปูนยังไม่แข็งตัวในทันที เมื่อปูนแห้งแล้ว บวกกับช่างไล่อากาศไม่ดี โอกาสที่จะมีอากาศอยู่ภายใต้กระเบื้องจึงมีสูงมาก โอกาสที่กระเบื้องจะร่อนจึงมีสูง จึงเป็นที่มาของการปูในแบบต่อไป คือ "การปูแบบซาลาเปา"

ขอขอบคุณภาพจาก หจก.ปอร์การช่าง

     2. การปูแบบซาลาเปา ใช้ปูนแบบเดียวกับการปูแบบเปียก แต่ต่างกันตรงที่ การปูแบบนี้จะนำปูนมาวางใต้แผ่นกระเบื้องเป็นทรงกลม คล้ายซาลาเปา แล้วจึงคว่ำและกดทับลงไป การปูแบบนี้จะเป็นการกดกระจายน้ำหนักออกไป อากาศจะไม่อยู่ตรงกลางแผ่นแต่จะไปอยู่ตรงขอบแผ่นแทน การปูแบบนี้ โอกาสร่อนมีสูงกว่าทุกๆแบบ เนื่องจากปูนไม่ถูกกระจายออกไปทั่วแผ่นเหลือไว้แต่กลางแผ่น


ขอขอบคุณภาพจาก SCG Experience

     3. การปูด้วยปูนกาว เป็นการปูที่ดีที่สุดเพราะปูนมีคุณสมบัติเกาะยึดสูง แต่จะใช้ได้ดีเฉพาะกระเบื้องผนังและกระเบื้องพื้นที่พื้นเดิมเป็นปูนซีเมนต์เท่านั้น เพราะไม่สามารถทำความสูงของพื้นที่จะปูได้ ความสูงทำได้ไม่เกิน 2cm.เท่านั้น การจะปูพื้นให้ได้ความสูง 5-10cm.จึงต้องทำการเทพื้นก่อน ซึ่งเป็นการเสียเวลาและสิ้นเปลืองเงินโดยเปล่าประโยชน์ จึงไม่เหมาะกับการนำมาปูพื้นที่ต้องการความสูงมากๆ จึงมีการดัดแปลงการปูกระเบื้องมาเป็นแบบสุดท้าย คือ "การปูแบบแห้ง" หรือที่ช่างเรียกว่า "การปูแบบขี้หนู"


ขอขอบคุณภาพจาก นายซอกแซก

     4. การปูแบบแห้ง เป็นการประยุกต์การปูกระเบื้องด้วยปูนปอร์ตแลนท์กับซีเมนท์กาว(ปูนกาว)ไว้ด้วยกัน ลดข้อเสียของการปูแบบเปียกเรื่องการแห้งตัวแล้วเกิดฟองอากาศใต้กระเบื้องทำให้ร่อน และ ความสูงของระดับพื้นกระเบื้องรวมถึงความสิ้นเปลืองของปูนกาวที่แพงกว่ามาก การปูด้วยวิธีนี้สามารถปูให้สูงได้ถึง15cm.โดยไม่ต้องเทพื้นก่อน (พื้นล่างควรเป็นคอนกรีต และต้องการยกระดับความสูง ใช้กับระดับดินเดิมหรือพื้นทรายไม่ได้ กรณีนั้น ยังไงก็ต้องเทพื้นก่อนอยู่ดีครับ เทพื้นคลิกที่นี่) เหนียวแข็งแรง และแห้งไว แต่ต้องผสมปูนให้ถูกวิธี การปูแบบแห้งนี้เหมาะกับพื้นแกรนิตโต้และพื้นอื่นๆ เป็นวิธีการปูกระเบื้อง ที่ผมขอแนะนำ ส่วนเครื่องมือและวิธีการปูนั้นผมจะกล่าวใน ตอนที่ 2


ขอขอบคุณภาพจาก คุณ  supalerg 108diymyhome
           
===================================================================

        ทีนี้ท่านคงทราบถึงวิธีการปูกระเบื้องในแต่ละวิธีไปแล้ว ทั้งข้อจำกัดและผลเสียของแต่ละวิธี ถ้าท่านอยากลงมือทำเอง ให้ติดตามต่อได้ในตอนที่2 (คลิกที่นี่ )แต่ถ้าท่านเรียกช่างมาทำให้ ท่านควรพูดคุยทำความเข้าใจกันให้ดี ก่อนที่ช่างจะลงมือทำนะครับ ท่านจะได้ไม่ต้องมาปวดหัวกับการแก้งาน ที่เสียทั้งเวลาและสิ้นเปลืองเงินทองโดยไม่จำเป็น ควรทำให้ดีให้ถูกทำแค่ครั้งเดียว ให้จบครับ
ติดตามสาระประโยชน์เพิ่มเติมได้ที่
http://www.facebook.com/thaimawee/


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น